How to เคลือบเล็บใสให้แข็งแรง เล็บหนา สวยเงางามสุขภาพดี

How to เคลือบเล็บใสให้แข็งแรง เล็บหนา สวยเงางามสุขภาพดี

สาวๆเคยเจอปัญหาไว้เล็บยาวแล้วฉีก หักง่าย เล็บสุขภาพไม่ดีหรือไม่? นั่นเป็นปัญหาสำหรับการทำสีแบบสุดๆเลยล่ะ ในวันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับในการ “เคลือบเล็บใสเคลือบเล็บให้แข็งแรงไม่หักง่าย ทำสีแล้วไม่ต้องเสียดายเงิน เพื่อนๆคนไหนมีปัญหาเช่นนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด!! 

อุปกรณ์ที่ใช้ในการเคลือบเล็บแข็งสีใสธรรมชาติเพื่อป้องกันเล็บหัก เล็บฉีกง่าย 

ก่อนที่จะเคลือบเล็บใสให้มีความแข็งแรง เรามาทำความรู้จักกับอุปกรณ์ทั้งหมดที่ต้องใช้กันในวันนี้กันสักนิด 

1.เครื่องอบเล็บ แนะนำให้ใช้แบบ LED 

2.ไม้ดันหนัง 

3.ตะไบเล็บเบอร์ 180 เท่านั้น

4.สำลีไร้ขน 

5.แปรงทำความสะอาดหรือพู่กันสำหรับปัดเศษผง

6.แอลกอฮอลล์ 

7.ไพรเมอร์ 

8.Base coat 

9.สีเจลใส 

10.Top coat 

ทุกท่านสามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากับอุปกรณ์และงบประมาณที่มีอยู่กันได้เลย 

ขั้นตอนการเคลือบเล็บใสให้แข็งแรง ป้องกันการฉีกหัก 

เล็บ
p>เมื่อเราได้อุปกรณ์ทั้งหมดมาเป็นที่เรียบร้อยให้เพื่อนๆหยิบไม้ดันหนังขึ้นมาใช้งานเป็นอันดับแรก โดยการดันหนังบริเวณโคนเล็บให้ได้รูปทรงสวยงาม และถ้าหากไม่ได้ทำการดันหนังออกก่อนลงเจลใส บรรดาสีเจลต่างๆก็อาจจะไม่ค่อยติดเล็บ หลุดลอกง่าย 

เล็บ

ขั้นตอนถัดมาของการเคลือบเล็บแข็งใช้ตะไบเบอร์ 180 ในการขูดผิวเล็บให้ทั่วเพื่อไล่ความมันออกจากเล็บให้สิ้นซาก ถ้าหากเล็บของเรานั้นยังมันอยู่ สีต่างๆจะยึดเกาะได้ไม่ดีเท่าที่ควรหรืออาจจะไม่ยึดเกาะเลยก็เป็นได้ ซึ่งขั้นตอนนี้อาจจะดูน่ากลัวสักนิดเพราะผิวเล็บทุกหย่อมหญ้าของเราจะถูกขูดออกจนหยาบ เต็มไปด้วยผง แนะนำว่าให้ค่อยๆถูเบาๆอย่างใจเย็น

เล็บ

หลังจากถูเล็บด้วยตะไบจนความมันหายไปจากผิวเล็บ ให้เพื่อนๆใช้แปรงหรือพู่กันปัดเศษฝุ่นบนผิวเล็บออกให้เกลี้ยงเกลาหมดจด หลังจากนั้นนำสำลีไร้ขนชุบแอลกอฮอลล์แล้วเช็ดทำความสะอาดให้เรียบร้อย 

เล็บ

แน่นอนว่าก้าวเข้าสู่ขั้นตอนของการละเลงไพรเมอร์ลงบนเล็บเพื่อปรับสภาพ และการทาไพรเมอร์แบบฉบับช่างนั้น คือการลงไล่ตั้งแต่โคนเล็บมายังปลาย พยายามลงให้สม่ำเสมอและเป็นไปในทิศทางเดียวกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และที่สำคัญต้องทาปิดหน้าเล็บ (ปลายเล็บด้านหน้า) เสมอ 

เล็บ

เสร็จสรรพมาต่อกันที่การทา Base coat สำหรับคนที่ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเบสโค้ทจึงจำเป็นในการทาเล็บเจล ขอบอกเลยว่าเจ้าตัวนี้คือสิ่งที่จะทำให้สีเจลนั้นติดทนนาน ดังนั้น Base coat จึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากๆ ให้ทุกท่านเริ่มทาตั้งแต่บริเวณโคนเล็บ เช่นเดิมว่าเว้นหนังเอาไว้และอย่าลืมทาปิดปลายเล็บด้านหน้าเพื่อความแน่นหนาจากนั้นนำไปอบเป็นระยะเวลาราวๆ 60 วินาที 

เล็บ

เมื่ออบเบสโค้ทเสร็จสรรพ ได้เวลาของการทาสีเจลใส เช่นเดิมสำหรับขั้นตอนนี้ให้ทุกท่านเริ่มทาจากโคนเล็บและพยายามอย่าให้ชิดหนังต่อด้วยการทาปิดหน้าเล็บให้เรียบร้อยก่อนนำไปอบเป็นเวลา 60 วินาทีโดยประมาณ 

การจะเคลือบเล็บให้แข็งแรงนั้นควรเคลือบสีเจลใสทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากอบเจลใสในครั้งแรกไปแล้วให้ทาและอบครั้งที่สองต่อเป็นเวลา 60 วินาที หรือหากเพื่อนๆต้องการความหนามากกว่านี้ก็สามารถทาทับรอบที่สามกันอีกได้ ตามความต้องการ 

เล็บ

ขั้นตอนท้ายที่สุดในการเคลือบเล็บใสก็คือการทา Top coat ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอีกเช่นกันเพราะท็อปโค้ทนั้นจะช่วยให้เล็บของเราดูเงางามสุขภาพดี ป้องกันรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพียงเท่านี้เราก็จะได้เล็บที่ทั้งสวยและแข็งแรง ไม่เปราะ ฉีก หรือหักง่ายอีกต่อไป อยู่ได้เป็นเดือนๆแน่นอน 

เคลือบเล็บใสเพิ่มความแข็งแรงทำได้ง่ายๆด้วยตัวเองที่บ้าน

เห็นหรือไม่ว่าการเคลือบเล็บแข็งนั้นไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงแค่เพื่อนๆมีอุปกรณ์และเสียเวลาสักนิด เราก็จะได้เล็บที่สวยสมใจโดยฝีมือตนเอง หรือจะทำให้เพื่อน พี่น้อง ครอบครัว คนรอบข้างด้วยก็ได้ เช่นนั้นแล้วมาเคลือบเล็บให้แข็งแรงดูสุขภาพดีกันเถอะ